วันพุธที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2561

แรงบันดาลใจจากโอวาทธรรม หลวงปู่สิม พุทธาจาโร

เพราะตั้งใจจึงได้เวลาตั้ง       มาให้ยังกิจชอบตอบใจได้
ถ้าไม่ตั้งที่จิตอุทิศไว้             ก็ไม่มียามใดได้เวลา

แม้นมีช่วงเวลามหาศาล        ยังก่อการกิจอื่นได้ชื่นหน้า
ผลัดไปเรื่อยเฉื่อยไฉไร้ราคา เพราะตั้งใจไม่กล้าจะท้าทาย


นลินมณี

จันทร์ 22 ตุลาคม2561
แรงบันดาลใจจากโอวาทธรรม หลวงปู่สิม พุทธาจาโร

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ถ้าตั้งใจจริง
ย่อมมีเวลาภาวนา

" ความไม่ตั้งใจ
นั้นแหละทำให้
ไม่มีเวลา ถ้าใคร
ตั้งใจได้ก็มีเวลา
ถ้าใครตั้งใจ
ไม่ได้ก็ไม่มีเวลา

ในสมัยครั้ง
พุทธกาล ท่าน
ไม่เลือกชั้นวรรณะ

ไม่เลือกว่าเวลา
เช้า สาย บ่าย ค่ำ
กลางวัน กลางคืน

เมื่อระลึกได้
ที่ไหน ท่านก็
ระลึกภาวนา
ในที่นั้นๆ

เจริญระลึกถึง
คุณพระพุทธเจ้า
คุณพระธรรม
คุณพระสงฆ์

สิ่งใดที่มันดี
มีประโยชน์ก็ชื่อ
ว่านำมาสอนตัว
สอนใจได้ทั้งนั้น

ทีนี้ถ้าตั้งใจ
ลงไปจริงๆ เวลา
มันมีค่ามีราคา
มีอยู่ทุกเวลา

นาฬิกามันบอก
อยู่ว่าเท่านั้นโมง
เท่านี้โมง
มันเวลาทั้งนั้น

ฉะนั้นถ้าคนเรา
ตั้งใจแล้ว เวลา
มีค่ามีราคา
ถ้าไม่ตั้งใจ
ใจเลื่อนลอย
จิตไม่สงบระงับ

ไม่ภาวนา ก็หา
เวลาไม่ได้ หา
ตั้งแต่เกิดจนตาย
ก็ไม่มี เพราะจิต
มันไม่มีเวลาตั้งใจได้ "

โอวาทธรรม
หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร
***************

วันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2561

แรงบันดาลใจจากหลวงปู่ชอบ. ฐานสโม/หลวงปู่แบน ธนากโร

สะสมธรรมสะสมกรรมสะสมทรัพย์
ไม่นานนับกองโตอักโขหนัก
ทีละนิดละหน่อยแม้น้อยนัก
ก็เกินจักคณานับรับเกินร้อย
จารจิตจำซ้ำซ้ำในทางนั้น
พอความจำฟั่นเฟือนเหมือนปลดปล่อย
ใต้สำนึกทะลักล้นท้นใจคล้อย
คลังก็ลอยพัดพาไปหาทรัพย์

นลินมณี
แรงบันดาลใจจากหลวงปู่ชอบ. ฐานสโม

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หนีสุดหล้าฟ้าเขียวเลี้ยวมุดโลก
ยังกรรโชกโยกตามเย้ยหยามหมิ่น
ทำลืมลืมยังมาให้ได้ยิน
รูปรสกลิ่นตามชิดติดเนื้อตัว
เหมือนแรงใจดึงดูดให้มาใกล้
หนีเท่าใดบาปผิดยังล้อมทั่ว
หมดเรี่ยวแรงก็ซัดเข้ามัดตัว
แรงกรรมชั่วทั่วล้อมไม่ยอมความ

นลินมณี
อาทิตย์ 21 ตุลาคม 2561
แรงบันดาลใจจากหลวงปู่แบน ธนากโร

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

"..ความชั่ว
ทั้งหลายอย่า
ได้ไปทำ เพราะ
ทำแล้วเป็นของๆ
ตนไม่มีการตกหล่น

จึงว่ากรรม
เป็นของที่น่ากลัว
แล้วจะหลีกหนี
ไปไหนล่ะ ก็หนี
ด้วยการเว้นจาก
กรรมชั่ว

หนีอย่างนี้ เว้น
อย่างนี้ จึงจะเป็น
การหนีจาก
กรรมชั่วที่ถูกต้อง
แล้วสามารถที่จะ
พ้นจากกรรมชั่วด้วย

จะบินไปบนฟ้า
หรือมุดลงไป
ในแผ่นดินละ
หนีไม่พ้น เพราะ
เป็นเรื่องของเรา

เราไปสร้างไว้
ไม่ยอมหลีกก็
เรียกว่ายอมรับเสีย

นี่คิดดูสิ แม้แต่
พระโมคคัลลานะ
ท่านหนีได้เสีย
เมื่อไร หนีไม่ได้

เมื่อไม่มีทางที่
จะหลีกเลี่ยง ก็
มีอยู่ทางเดียวคือ
เว้นจากกรรมชั่ว

แล้วก็ทำกรรมดี
ให้มากๆ ทำให้
มาก ผลของ
กรรมดีก็จะมี
กำลังมากขึ้นๆ.."

โอวาทธรรม
หลวงปู่แบน ธนากโร
***************

" ขึ้นชื่อว่า
บาปกรรมไม่ควร
ดูหมิ่นว่าเล็กน้อย

เปรียบเสมือน
ภาชนะที่เขาเปิด
ทิ้งไว้กลางแจ้ง
เมื่อฝนตก น้ำฝน
หยดเดียวไม่ทำ
ให้ภาชนะเต็ม
ก็จริงอยู่ แต่เมื่อ
ฝนตกบ่อยๆ
ภาชนะนั้นย่อม
เต็มแน่ๆ ฉันใด

ผู้ทำบาปอยู่แม้
ทีละน้อยๆ ย่อม
ทำกองบาปให้
ใหญ่โตขึ้นตาม
ลำดับได้ฉันนั้น "

โอวาทธรรม
หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
***************

แรงบันดาลใจจากพระอาจารย์อังคารอัคคธัมโมและท่านพุทธทาสภิกขุ

ไม่ได้เห็นเท่าที่เห็นเช่นที่เห็น
แต่ว่าเป็นธรรมชาติประสาทสาน
จากหูตาสัมผัสที่จัดการ
ให้รู้ผ่านอ่านซ้ำธรรมารมณ์
เมื่อพินิจคิดตรองกรองความคิด
จึงได้รู้ทางผิดที่คิดขม
เมื่อใจเผลอพลุ่งพล่านลงเปือกตม
ก็ระทมตามนั้นที่ปั้นใจ

นลินมณี
อาทิตย์21 ตุลาคม2561
แรงบันดาลใจจากพระอาจารย์อังคารอัคคธัมโมและท่านพุทธทาสภิกขุ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

"..ทุกอย่าง
เป็นธรรมะ
คุณคิดว่า
พระพุทธเจ้า
เอาปัญญา
มาจากไหน

ถ้าไม่เอามา
จากการวิเคราะห์
รูปเสียงกลิ่นรส
โผฏฐัพพะ
ธรรมารมณ์

เนี่ยตากระทบรูป
หูกระทบเสียง
คุณ 'โอปะนะยิโก'
เป็นไหมล่ะ

น้อมเข้ามา
เปรียบเทียบ
กับตัวเอง

'โยนิโสมนสิการ'
พิจารณา
ให้แยบคาย
ได้ไหมล่ะ

นั่นคือการ
วิเคราะห์สิ่งเร้า
มันเป็นแบบนั้น.."

โอวาทธรรม
พระอาจารย์อังคาร
อัคคธัมโม
**************

" การมีสติ
ไม่เผลอ
ให้อวิชชา
เข้าครอบงำ
ในขณะที่
ตาเห็นรูป
หูได้ยินเสียง เป็นต้น

จนไม่เกิดอาการ
ยึดมั่น ถือมั่น
ในเวทนาใดๆ
จนเกิดทุกข์

นั่นแหละคือ
การปฏิบัติ
'ปฏิจจสมุปบาท'
หรือในหลักแห่ง 
'อธิปปัจจยตา'..”

โอวาทธรรม
ท่านพุทธทาสภิกขุ
**************

ธรรมะสวัสดี เช้าวันอาทิตย์

วันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2561

กลอนแปลงจากโอวาทธรรมหลวงตามหาบัว


เพราะมีจิตคิดดีเป็นที่ตั้ง                   เรื่องร้ายที่ประดังก็หน่ายหนี
ไม่มีข้องให้เกี่ยวที่เหนียวดี               จึงลื่นหลุดไม่มีที่เกาะตาม
เพราะล้างมือหมดจรดจนเกินเปื้อน   เรื่องเลอะเลือนก็หลุดรอดไม่เหมือนหนาม
ที่กางไว้เพื่อเกี่ยวทุกโมงยาม           เมื่อจิตงามจึงอยู่รอดและปลอดภัย

 นลินมณี
จันทร์ 15 ตุลาคม 2561
เขียนจากแรงบันดาลใจ โอวาทธรรมหลวงตามหาบัว


----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

" พระพุทธเจ้า
สอนลงในจุดรวม

ว่า ผู้ที่จะไปสู่
ภพชาติใดๆ
ต้องขึ้นอยู่
กับจิตนี้เท่านั้น

เพราะฉะนั้น
จงสร้างจิต
ฝึกฝนอบรมจิต
ให้ดีเป็นสำคัญ

ถ้าอบรมจิตนี้
ด้วยดีคือโดยศีล
โดยธรรมแล้ว

จะมีสักกี่ร้อยล้าน
ภพภูมิของสัตว์
ก็ตาม จิตจะเกิด
ในภพภูมิที่ดีเท่านั้น

เหมาะสมกับ
วาสนาบารมีของตน "

โอวาทธรรม
หลวงตาพระมหาบัว
ญาณสัมปันโน
***************

" ต้องปฏิบัติ
ให้ถึงจิต
จึงจะเป็น
ศีล สมาธิ ปัญญา

แม้จะเรียก
เป็นอย่างอื่นเช่น
สติสัมปชัญญะ
ขันติโสรัจจะ
ก็ต้องปฏิบัติ
ให้ถึงจิต

จึงจะเป็น
สติสัมปชัญญะ "

พระโอวาทธรรม
สมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราช
สกลมหาสังฆปริณายก
***************

ธรรมะสวัสดี เช้าวันจันทร์

วันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2561

กลอนแปลงจากโอวาทธรรมหลางปู่หล้า เขมปัตโต

คือรูปกายหมายรักเกินหักห้าม
จึงนิยามความรักเกินหักหาญ
เมื่ออ้วนหนาคามือคือเหนียงยาน
ที่เคยหวานพลันขมเกินข่มใจ
ถ้ามองข้ามรูปงามที่ลวงล่อ
จะยังพองอนง้อขอรักไหม
ถ้ายังรักใหลหลงไม่ปลงใจ
ก็คือกรรมทำไว้ให้เวียนวน

นลินมณี
อังคาร 9 ตุลาคม 2561
จากโอวาทธรรมหลางปู่หล้า เขมปัตโต

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

"..เมื่อผู้ใดเห็น
อนิจจังชัด
ทุกขังชัด
อนัตตาชัด
ก็เท่ากับว่าได้
เจริญกรรมฐาน
ในทางพระพุทธ
ศาสนาครบแล้ว

เพราะดินฟ้า
อากาศไม่ต้อง
พูด สกลกายที่
เอาหนังหุ้มอยู่
โดยรอบนี่ ถ้า
เบื่อหน่าย ก็เบื่อ
หน่ายอันนี้ ถ้า
หลง ก็หลงอันนี้
ถ้าไม่หลง
ก็ไม่หลงอันนี้

เราเคยเป็น
พ่อค้าแม่ค้า
กระดูกมานาน
หลายภพหลาย
ชาติแล้ว เราจะ
หยุดไม่เป็นพ่อ
ค้าแม่ค้ากระดูก
หนังและเนื้อและเอ็น

เราเป็นผู้หลง
ของเปื่อยของเน่า
มาหลายชาติ
หลายภพแล้วทีนี้
เราจะพยายาม
ไม่ให้หลงทีนี้

เราไปติเตียน
แมลงวันว่าหลง
ของบูดของเน่า
เราไม่กลับติเตียน
เราว่าหลง
ของบูดของเน่า

เราสำคัญว่าสกล
กายของเรามัน
สวยมันงาม เรา
ไปเพ่งโทษแต่
แมลงวันและ
หมู่หนอน

ตัวของพวกเรา
ก็เป็นหนอน
เหมือนกัน ถ้าเรา
หลงร่างกระดูก
ก็เรียกว่า
หนอนเหมือนกัน

มันเป็นธรรมหมด
ถ้าเป็นธรรมอัน
หนึ่งแล้ว พูดไป
มันก็เป็นธรรม ทีนี้

ถ้าพิจารณา
อันหนึ่งถูก มันก็
ถูกไปหมดแน่ะ
เพราะเป็นอุบาย
ให้เบื่อหน่าย
คลายเมาใน
วัฏสงสารนี่.."

โอวาทธรรม
หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
***************
วันนี้วันพระ
น้อมนำธรรมะสู่ชีวิต

ธรรมะสวัสดี เช้าวันอังคาร

กลอนแปลงจากโอวาทธรรมหลวงพ่อชุมพล พลปัญโญ

รดน้ำรินสิ้นน้ำลงรากไม้
รากก็แทรกแตกปลายไม่ให้ผล
คอยดูแลบ่มเพาะคนบางคน
ก็ไม่ดลใจชอบคิดตอบแทน
เพราะดอกผลต้นไม้อยู่ปลายกิ่ง
ความดีจริงทิ้งได้ใช่หวงแหน
ไม่หวังผลกลใดให้เป็นแกน
เพราะว่าแก่นความดีได้ที่ใจ

นลินมณี
จากโอวาทธรรมหลวงพ่อชุมพล พลปัญโญ
พฤหัส 11 ตุลาคม 2561

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
"..บุคคลพรวนดิน
รดน้ำที่รากต้นไม้
มิใช่รอคอย
เพื่อให้ราก
ออกลูกออกผล

ทำความดีไว้
ที่รากแต่ได้ผล
ประโยชน์จาก
กิ่งและใบ

เมื่อทำดีกับใคร
จงอย่าต้องการ
ให้ผู้นั้นมาตอบแทน

จงทำความดี
เพื่อพัฒนาจิต
ของตนให้สูงขึ้น
ผู้จิตสูงจะได้
ทุกอย่างจากทุกคน

ท่านผู้มีปัญญา
จึงไม่หวังให้คน
ที่เราช่วยเหลือ
กลับมาตอบแทน

บุคคลผู้เห็นว่า
รากไม่ออกลูก
จึงเลิกพรวนดิน
รดน้ำต้นไม้
คนผู้นี้โง่เกินไป
ที่จะเป็นชาวสวน

บุคคลผู้เห็นว่า
คนที่เราทำดีด้วย
แล้วไม่ตอบแทน
จึงเลิกทำความดี
คนผู้นี้โง่เกินไป
ที่จะเป็นคนดี

จงทำความดี
เพื่อสละออก
อย่าทำความดี
เพื่อรอคอย

ผู้คิดให้โดย
ไม่หวังผลจะ
อิ่มเอิบเบิกบาน
ผู้รอคอยจะกลัด
กลุ้มจนปวดหัว

จงทำความดี
เพื่อพัฒนาจิต
ของตนให้สูงขึ้น
อย่ารอคอยอะไร
จากใคร เพียง
คิดให้ด้วยใจบริสุทธิ์

ผู้จิตสูงจะได้
ทุกสิ่งทุกอย่าง
จากทุกคน.."

โอวาทธรรม
หลวงพ่อชุมพล
พลปัญโญ
**************

ธรรมะสวัสดี  เช้าวันพฤหัสบดี


กลอนแปลงจากโอวาทธรรมหลวงพ่อชา สุภทโท

ให้ตั้งมั่นกึ่งกลางระหว่างขั้ว
อารมณ์มัวมืดหม่นจนมืดหมอง
กับความสุขแสบซ่านที่ร่านร้อง
แต่อยู่กลางหว่างสองสุดขั้วนั้น
ฉะนี้จึงสายกลางอย่างที่ว่า
ไม่แกว่งไกวไหวหาสุขทุกข์นั่น
แต่สมดุลหนุนใจได้ทุกวัน
รู้เท่าทันทางทุกข์และสุขปลอม

นลินมณี
พุธ 10 ตุลาคม 2561
เขียนจากโอวาทธรรมหลวงพ่อชา สุภทโท

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
" คำว่า
ทางสายกลาง
ไม่ได้หมายถึง
ในด้านกาย และ
วาจาของเรา
แต่หมายถึง
ในด้านจิตใจ

เมื่อถูกอารมณ์
มากระทบ ถ้า
อารมณ์ที่ไม่ถูกใจ
มากระทบกระทั่ง
ก็ทำให้วุ่นวาย

ถ้าจิตวุ่นวาย
หวั่นไหวเช่นนี้
ก็ไม่ใช่หนทาง

เมื่ออารมณ์
ที่ชอบใจดีใจเกิด
ขึ้นมา แล้วก็ดีอก
ดีใจ ติดแน่นอยู่
ในกามสุขัลลิกา
นุโยโค อันนี้
ก็ไม่ใช่หนทาง "

โอวาทธรรม
หลวงพ่อชา สุภัทโท
****************

"..ความอันตรธาน
ความวิบัติ ความ
เสื่อมสลาย ความ
พลัดพรากจากกัน
สิ่งเหล่านี้ มันมี
ประจําโลกอยู่แล้ว

ทีนี้ผู้มีธรรมะ
ผู้ปฏิบัติธรรมะ
เมื่อประสบกับ
ภาวะเช่นนั้นแล้ว
จะวางใจอย่างไร
จึงไม่เป็นทุกข์
อย่างนี้ต่างหาก

ไม่ใช่ธรรมะช่วย
ไม่ให้แก่ ไม่ให้
ตาย ไม่ให้หิว
ไม่ให้ไฟไหม้

ไม่ใช่อย่างนั้น "

โอวาทธรรม
หลวงปู่ดูลย์ อตุโล
***************

ธรรมะสวัสดี  เช้าวันพุธ